ภาพหัวบล็อก

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

MVตัวใหม่ของพี่ๆวงCocktail...FCรายงานตัวค๊าบบ





                                           http://www.facebook.com/cheerscocktail
                                                        แฟนเพจของวงครับ

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

หนูน้อยขุดพบซากฟอสซิล อายุกว่า 160 ล้านปี ที่อังกฤษ


สำนักข่าวต่างประเทศ เผยภาพหนูน้อยเอมมิลี่ บาลดรี วัย 6 ขวบ กับซากฟอสซิลรูปหอย อายุกว่า 160 ล้านปี โดย เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เอมมิลี่และพ่อของเธอขุดพบซากฟอสซิลนี้โดยบังอิญด้วยพลั่วพลาสติก ที่สวนน้ำคอตส์เวิลร์ด เมืองกลอสเตอร์เชียร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ สองพ่อลูกอย่างมาก
ทั้งนี้ ซากฟอสซิลนี้มีรูปร่างคล้ายเปลือกหอย มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 16 นิ้ว และอยู่ในมหาสมุทรยุคลุลสิค (ราว190-140 ล้านปีก่อน) ทำให้เอมมิลี่ตั้งชื่อมันว่า สไปค์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เอมมิลี่และครอบครัวได้มอบซากฟอสซิลนี้ให้กับพิพิธภัณฑ์เพื่อให้คนอื่นได้ร่วมชื่นชมมันต่อไปด้วย



เอมมิลี่และซากฟอสซิล ที่ถูกขุดขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว

อันดับ 10 สัตว์ประหลาดตัวเป็นๆ ที่น่ากลัวที่สุด

อันดับ 10 สัตว์ประหลาดตัวเป็นๆ ที่น่ากลัวที่สุด


เว็บไซต์นิตยสารไทม์ ได้จัดอันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุดในโลก 10อันดับ 

 โดยอันดับที่ 1 เป็น จระเข้ยักษ์ ที่พบในหมู่บ้านบูนาวัน ในประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความยาว 21 ฟุต และน้ำหนักกว่า 2370 ปอนด์ (ประมาณ 1 ตัน) ซึ่งมีคนสังเวยชีวิตให้เจ้าจระเข้ยักษ์ตัวนี้หลายคน จนกระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ช่วยกันใช้เครนนำร่างของมันขึ้นมาไว้บนรถบรรทุก



อันดับที่ 2 ปลาหมึกยักษ์ ไม่ค่อยถูกพบขณะยังมีชีวิต แต่ปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า มันจะเติบโตและมีความยาวได้ถึง 45 ฟุต และหนักเกือบ 1 ตัน ซึ่งถูกถ่ายภาพไว้ได้ในปี 2004 ที่ใต้ทะเลลึก 3,000 ฟุต


อันดับที่ 3 ได้แก่ Goliath Birdeater Tarantula แมงมุมยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวประมาณ 1 ฟุต หนักประมาณ 6 ออนซ์ (170 กรัม) มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่อเมริกาใต้ โดย สมญานาม Goliath Birdeater Tarantula มาจาก แมงมุมชนิดนี้ชอบกินนกฮัมมิ่งเบิร์ด



อันดับ 4 คือ แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส (Portuguese Man-of-War) เป็นแมงกระพรุนที่มีลักษณ์คล้ายปลาหมึกที่มีพิษร้ายแรงมาก พบในทะเลเปิดของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลเมดิเตอเรเนียน, มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย

อันดับ 5 ได้แก่ แมงป่องจักรพรรดิ ถูกพบอยู่ทางตะวันตกของแอฟริกา เป็นแมงป่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวถึง 8 นิ้ว แม้ว่าหล็กในจะทำให้มันดูดุร้าย แต่ความจริงแล้วในเป็นสัตว์ที่เชื่องและสามารถนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้


อันดับ 6 คือ ค้างคาวดูดเลือด มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ชอบดูดเลือดสัตว์ชนิดอื่นเป็นอาหาร


อันดับ 7 ได้แก่ ปลาพญานาค (ปลายักษ์) เป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดถึง 56 ฟุต อาศัยอยู่ในน้ำลึกกว่า 3,000 ฟุต เคยพบตัวใหญ่ที่สุด มีความยาวถึง 200 ฟุต แต่เมื่อมันใกล้จะตายมักลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ จนบางครั้งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นงู


อันดับ 8 คือ แมงกระพรุนกล่อง(ตัวต่อทะเล) อาศัยอยู่ในน้ำตามแนวชายฝั่งของออสเตรเลียตอนเหนือและทั่วอินโดแปซิฟิก มีสีฟ้าอ่อน โปร่งใสเป็นแมงกระพรุนที่มีพิษร้ายแรงมาก เมื่อถูกต่อยพิษของมันจะตรงเข้าสู่หัวใจและระบบประสาท


อันดับที่ 9 ได้แก่ งูเหลือมพม่า เป็นงูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โตเต็มที่ได้ถึง 25 ฟุต และหนักถึง 200 ปอนด์ แต่ไม่มีพิษร้ายแรง ล่าเหยื่อโดยการบีบรัดเหยื่อ มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


และอันดับที่ 10 ได้แก่ The Loch Ness Monster สัตว์ประหลาดล็อกเนสส์ มีลำคอยาว ลำตัวสีดำ อาศัยอยู่ในน้ำลึก ทางตอนเหนือของสก็อตแลนด์ เชื่อว่าเนสซีมีรูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานที่อาศัยในทะเลยุคเดียวกับไดโนเสาร์

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

ทายนิสัยจากนิ้วก้อย

พอดีไปอ่านเจอมาเลยอยากจะให้เพื่อนๆได้อ่านดูกันบ้าง....




วิธีการดูนะคะ หันฝ่ามือเข้าหาตัวเอง โดยผู้หญิงให้ดูมือซ้าย ส่วนผู้ชายให้ดูมือขวา แล้วขีดเส้นแบ่งข้อต่อแต่ละข้อบนนิ้วก้อย จะได้ทั้งหมด 3 ข้อ ตามรูปประกอบ
ส่วนที่ยาวที่สุด คือส่วนที่บอกถึงจุดเด่นในตัวคุณ


ข้อบนสุดยาวที่สุด
คุณเป็นคนมีพรสวรรค์ในการพูดจาดึง ดูดคน เป็นคนพูดจาฉะฉานชัดเจนทั้งในน้ำเสียงและกิริยาท่าทาง เป็นคนช่างสังเกตและรอบคอบ

ข้อกลางยาวที่สุด
เป็นคนที่ให้ความใส่ใจต่อผู้อื่นและมีความอดทนเป็นเลิศ ลักษณะความยาวของข้อกลางนี้ ส่วนมากพบในบุคคลที่ อยู่ในวงการแพทย์เป็รส่วนใหญ่

ข้อล่างยาวที่สุด
คุณ เป็นคนรักอิสระอย่างมากไม่ชอบถูกควบคุมโดยใคร เป็นคนพูดจาเปิดเผย ตรงไปตรงมา ฝีปากกล้าคมคาย ยึดมั่นในความีเหตุมีผลและจะเก่งในเรื่องการโต้เถียง หรือการโต้แย้งใดๆ



ส่วน ที่สั้นที่สุด คือ ส่วนที่บอกจุดด้อยในตัวคุณ

ข้อบนสั้นที่สุด
คุณ เป็นคนไม่กล้าแสดงออกอย่างมาก เป็นคนขี้อายจนถึงขนาดตัวคุณเองที่ยากจะเข้าใจในตัวเอง นอกจากนี้คุณยังเป็นคนที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่นอีกด้วย

ข้อ กลางสั้นที่สุด
คุณเป็นคนซื่อสัตย์ ยุติธรรมแน่วแน่มั่นคง อาจจะเรียกได้ว่าถึงขั้นไม่มีความประนีประนอม จนดูเหมือนความที่เป็นคนตรง กลายเป็นข้อด้อยของคุณไปเลย

ข้อล่างสั้นที่สุด
คุณ เป็นคนซื่อๆง่ายๆ ไม่มีเล่ห์เหลื่ยมมารยา เชื่อคนง่ายจนกระทั่งอาจจะถูกหลอกหรือถูกโกงได้ง่าย ด้วยความไร้เดียงสาของคุณ

แม่นไม่แม่นคอมเม้นต์บอกกันด้วยนะครับ!!

โรคลำไส้แปรปรวน Irritable Bowel Syndrome (IBS)

ตอนนี้มารู้เรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพบ้างดีกว่านะ วันนี้ขอนำเสนอโรคลำไส้แปรปรวน(IBS)

เกิดจากความผิดปกติในการ เคลื่อนตัวของลำไส้ จากการสำรวจประชากรทั่วไปในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่ามีคนที่มีอาการกลุ่มโรค นี้ ประมาณร้อยละ10-20 และเป็นสาเหตุให้คนหยุดงานเป็นที่สองรองจากโรคหวัดในประเทศญี่ปุ่นพบร้อยละ 25 แต่การสำรวจในประเทศไทยโดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน พบประมาณร้อยละ 4.6-6.9



กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน
กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome-IBS) เป็นกลุ่มอาการที่ประกอบด้วยอาการปวดท้องและการแปรปรวนของการถ่ายอุจาระโดยไม่มีพยาธิสภาพที่ทุก ๆอวัยวะในร่างกายมีหลักฐานว่าอาการเหล่านี้เกิดจากความผิดปกติในการเคลื่อนตัวของลำไส้ จากการสำรวจประชากรทั่วไปในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่ามีคนที่มีอาการกลุ่มโรค IBS ประมาณร้อยละ10-20 และเป็นสาเหตุให้คนหยุดงานเป็นที่สองรองจากโรคหวัด ในประเทศญี่ปุ่นพบร้อยละ 25 แต่การสำรวจในประเทศไทยโดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน พบประมาณร้อยละ 4.6-6.9 เท่านั้น


สาเหตุและการเกิดโรค
สาเหตุของโรคยัง ไม่ทราบแน่ชัด ความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยไม่มีความผิดปกติทางพยาธิวิทยา แต่มีความ
ผิดปกติเกี่ยวกับการเคลื่อนตัวของลำไส้โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำไส้ใหญ่ หรืออาจเกิดจากประสาทรับความรู้สึกไวกว่าปกติ
หรือมีความผิดปกติในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อของลำไส้ใหญ่โดยสมอง ซึ่งสามารถอธิบายการเกิดอาการ
ได้พอสมควรแม้จะไม่สมบูรณ์นัก และยังมีข้อขัดแย้งอยู่บ้าง

ลักษณะทางคลินิก
ผู้ป่วย IBS จะเริ่มมีอาการในวัยหนุ่มสาว หรืออายุไม่เกิน 40 ปี ถ้าผู้ป่วยมีอาการครั้งแรก เมื่ออายุมากแล้ว แพทย์
ควรคำนึงถึงโรคอื่นก่อนการเริ่มต้นของอาการ มีลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่รุนแรง ผู้ป่วยส่วนมากจึงจำวันเริ่ม
มีอาการไม่ได้ เป็นโรคเรื้อรังที่มีอาการแบบเป็นแล้วหายแล้วอาการกำเริบใหม่ ระยะเวลาที่มีอาการและระยะเวลาที่หาย
อาจนานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนหรือเป็นปี โดยมีอาการหลัก 2 ประการ คือ อาการปวดท้องส่วนใหญ่ที่ท้องน้อย อาการ
ปวดท้องจะดีขึ้นหลังถ่ายอุจจาระ และการแปรปรวนของการถ่ายอุจจาระ (ท้องผูก , ท้องเสียหรือทั้งสองอย่าง)
ท้อง อืดมีลมมากในท้อง ถ่ายมีมูก กลั่นอุจาระไม่อยู่ ปวดบริเวณทวารหลัก ในสตรีอาจมีอาการมากขึ้นในขณะมี
ประจำเดือน ถ้าอาการทั้งสองประการมีความสัมพันธ์กันก็ง่ายต่อการวินิจฉัยขึ้น ลักษณะอาการของผู้ป่วยแต่ละราย
แตกต่างกัน แต่ผู้ปวดรายเดียวกัน ทุกครั้งที่อาการกำเริบจะมีรูปแบบเหมือนกัน ฉะนั้น ถ้าผู้ป่วยที่มีอาการแตกต่างไป
จากเดิม แพทย์ต้องคำนึงด้วยว่าอาจจะเกิดจากโรคอื่น


การวินิจฉัยโรค
เนื่อง จาก IBS เป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุและไม่มีพยาธิสภาพ การวินิจฉัยโรคจึงต้องอาศัยกลุ่มอาการเป็นหลัก
โดยอาจยึดหลัก 3 ประการได้แก่

1. อาการปวดท้องเรื้อรังหรือเป็น ๆ หาย ๆ โดยไม่ต้องเป็นติดต่อกัน แต่รวมเวลาที่มีอาการแล้วนานเกิน 3
เดือน ใน 12 เดือนที่ผ่านมา

2. อาการปวดท้องที่มีลักษณะต่อไปนี้
- ปวดบริเวณครึ่งล่างของท้อง
- ทุเลาด้วยการถ่ายอุจจาระ
- กระตุ้นให้ปวดด้วยการรับประทานอาหาร
- กระตุ้นให้ปวดด้วยความเครียด
- ไม่ตื่นกลางดึกเพราะปวดท้อง
3. อาการแปรปรวนของการถ่ายอุจจาระและลักษณะอุจจาระ
อุจจาระที่ถ่ายแต่ละครั้ง มีปริมาณน้อยไม่ว่าจะเป็นท้องผูกหรือท้องเดินและไม่ตื่นกลางดึกมาถ่ายอุจจาระ

เหมือนขาดอะไรไปซักอย่าง

"เหมือนยามเช้าขาดแสงอาทิตย์ เหมือนชีวิตขาดชีวา เหมือนดวงจันทร์ขาดฟ้า เหมือนน้ำตาขาดใจ ทุกสิ่งดูไม่เคยสมบูรณ์อีกต่อไป..
เมื่อฉันขาด.. เธอ.."




พักสมองมาฟังเพลงกันดีกว่านะครับ

คลายเครียดก่อนสอบนะครับ^^

เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังแล้ว ความหมายดีมาก!! เพลงลูกอม..ชื่อเพลงก็แสนจะน่ารักเลยเนอะ ว่ามั้ย
คนแต่งต้องเป็นคนที่โรแมนติกมากแน่ๆเลย

เคยสงสัยเรื่องเล่านี้กันบ้างไหมครับ??


คนโบราณที่เป็นชนเผ่าเล็กๆไม่ใช่มหาอำนาจทางการทหารอย่าง อียิปต์ สุเมเรีย หรือบาบิโลเนีย สามารถสร้างสรรสิ่งใหญ่โตและมีความหมายลึกลับได้อย่างไรกัน? เอากำลังข้าทาสบริวารที่ไหนมายกหินก้อนใหญ่หนักนับสิบตัน ก้อนแล้วก้อนเล่าขึ้นซ้อนกันเป็นป้อมกำแพงมโหฬาร เอาเทคนิคและแบบแปลนที่ไหนมาตัดถนนยาวกว่า 6000 ไมล์ กว้าง 7 เมตร ซึ่งถนนที่ว่ามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งช่วงที่เป็นสะพานข้ามน้ำ ทางเบี่ยง ทางเป็นขั้นฯลฯ เอาความรู้เรื่องระบบระบายน้ำทันสมัยมาจากที่ใด และเหนือสิ่งอื่นทั้งหมด เส้นที่ลากตัดกัน ลักษณะเหมือนรันเวย์ขนาดยักษ์ กับรูปเสาอากาศมหึมานั้นทำขึ้นด้วยวัตถุประสงค์อะไร?



เอาล่ะครับ เรามาพิศกันช้าๆทีละหัวข้อดูนะครับ
มาดูอารยธรรมนาซก้ากัน ก่อน ภูมิประเทศแถบนี้มีทั้งที่ราบและภูเขา ซึ่งล้วนแล้วแต่ทุรกันดารและแห้งแล้งอย่างทารุณ ตรงส่วนที่ราบนั่นแหละครับ ถ้าใครได้เครื่องบิน แล้วมองลงมา จะเห็นอะไรบางอย่างรูปร่างเดาไม่ถูกอยู่บนพื้นอย่างถนัดชัดเจน

นักโบราณคดีเรียกตรงนั้นว่า "ถนนของชาวอินคา" คนละอันนะครับกับถนนหลายพันไมล์ที่พูดมาแล้วตะกี้นี้ อันนี้จะเป็น เส้นตรงตัดกันมากมาย ลักษณะเหมือนกับเส้นทางเรขาคณิต ไม่มีใครอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างน่าเชื่อเลย พอล โกซอส นัก โบราณคดีผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ได้ให้ทฤษฎีว่า เส้นเรขาคณิตบนพื้นที่กว่า 30 ไมล์ ของที่ราบนนาซก้านั้น เป็นแผนที่มหึมา ชี้ตำแหน่งดวงดาวต่างๆในจักรวาล แต่ยังไม่มีใครเห็นด้วย เพราะว่าเท่าที่ดูมันเหมือนรันเวย์เสียมากกว่า

เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่คือรันเวย์สำหรับจานบินของสุริยเทพ ที่เสด็จลงมาเยือนชาวอินคาเป็นครั้งเป็นคราวในสมัยก่อน

ความแปลกของรันเวย์นี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวมันหรอกครับ หากอยู่ที่การสร้างมันต่างหาก ถ้าหากชาวอินคาหรือชนสมัยก่อนอินคาสร้างขึ้นจริง เค้าจะทำกันได้อย่างไรล่ะครับ ในเมื่อเส้นเรขาคณิตนี้ ต้องใช้วิธีการสมัยใหม่ คือการบินสำรวจทางอากาศเป็นเครื่องช่วย จึงจะสามารถตัดเส้นขนานแต่ละเส้นได้ตรงเด๊ะ เป็นระยะทางยาวเหยียดขนาดนั้น

จะเป็นไปได้ไหมว่า เส้นเรขาคณิตแห่งนาซก้านี้ สร้างขึ้นโดยความควบคุมของพระเจ้า เพื่อบอกทางแก่สุริยเทพให้นำยานลงอย่างถูกต้องตรงจุดนี้?

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

แนะนำตัว

หลังจากที่ได้เริ่มสร้างบล็อกนี้มาสักพัก....แต่ยังไม่ได้มีการแนะนำตัวผู้สร้างบล็อกเลย
วันนี้เลยถือโอกาสแนะนำตัวกัน


ชื่อจริง นามสกุลจริง - - อภิวัฒน์ ไชยรักษ์
ชื่อเล่น - - บอย Boyd
เพื่อชอบเรียกกัน - - เป็ด!!


เกิดวันเสาร์ ที่ 25 สิงหาคม 2533
บ้านเกิดอยู่ ร้อยเอ็ด เด้อคับ

ปัจจุบัน - กำลังศึกษาคณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์
สาขา สัตวศาสตร์ ชั้นปีที่ 3

e-mail - toomtam_poi@hotmail.com

นอกจากผมจะชอบสัตว์แล้ว ยังชอบที่จะเล่นดนตรีด้วยนะ
และเครื่องดนตรีที่ผมชอบมากๆก็คือ - Trumpet

ยังไงก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาติดตามบล็อกของผมด้วยนะค๊าบบบ^^

9 สัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก


1. หมาที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก (ไม่ใช่สูงนะ)หมา ยักษ์ตัวนี้มีชื่อว่าHercules มันถูกบันทึกโดยGuinness Recordว่าเป็นหมาที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก Herculesเป็นหมาพันธุ์นึงของอังกฤษ มีรอบคอกว้าง38นิ้ว และน้ำหนักตัวถึง282ปอนด์ หมายักษ์อายุ3ขวบตัวนี้มีขนาดใหญ่และหนักกกว่ามาตรฐานถึง200ปอนด์ เจ้าของได้บอกว่าเค้ก็เลี้ยงดูมันปกติ ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษ"ผมก็ให้อาหารมันปกตินะ แล้วมันก็โตเอาโตเอาแล้วก็โตเอา"


2. ม้าที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกม้า ตัวนี้ชื่อRadarเป็นม้าพันธุ์เบลเยี่ยม ถือเป็นม้าที่ยังมีชีวิตอยู่ที่สูงที่สุดในโลก มันมีขนาดยักษ์ สูงถึง6ฟุต 7นิ้วครึ่ง โดยวัดจากกีบเท้าไปจนถึงช่วงไหล่ เป็นม้าจากMount Pleasant ซึ่งอยู่ในรัฐTexas เนื่องจากมันมีน้ำหนักตัวถึง2,400ปอนด์ จึงทำให้มันก็ต้องการอาหารมากกว่าปกติ มันต้องการน้ำถึง20แกลลอนต่อวัน และกินอาหารถึงวันละ18ปอนด์เลยล่ะ

3. วัวที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกมันตัวใหญ่พอๆกับช้างขนาดเล็กเลย มันมีชื่อว่าChilli วัวหนุ่มยักษ์ตัวนี้สูงถึง6ฟุต6นิ้ว และมีน้ำหนักเกิน1ตันซะอีก


4. หมูที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก
พิพิธภัณฑ์การเกษตรและกสิกรรมของจังหวัดLiaoningซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียง เหนือของประเทศจีน ได้ยื่นคำร้องต่อGuinness Book of Recordsให้บันทึกหมูที่มีน้ำหนักตัวถึง900กิโลกรัมตัวนี้ให้เป็นหมูตัวที่ ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา หลังจากที่มันได้ตายไปเมื่อวันที่5กุมภาพันธ์ ตอนที่มันตายนั้น มันมีความยาวถึง2.5เมตร มีรอบเองถึง2.23เมตร และเขี้ยวยาว14.4เซนติเมตร ตามที่Xu Changjin ชาวนาเมืองWafangdianได้บอกว่า หมูตัวนี้มีอายุแค่5ปีเท่านั้น และตลอดเวลาที่มันมีชีวิตอยู่ เค้าได้เลี้ยงมันด้วยอาหารคุณภาพอย่างดี


5. ปลาบึกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกปลา บึกแห่งแม่น้ำโขงตัวนี้เป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความยาวถึง2.7เมตร และน้ำหนักตัวถึง646ปอนด์ มันมีขนาดใหญ่พอๆกับหมีGrizzlyเลยทีเดียว ปลาบึกตัวนี้ถูกจับได้ในภาคเหนือของประเทศไทยโดยนักตกปลาท้องถิ่นเมื่อ ปี2005 และอาจเป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกเอาไว้ นักตกปลาหลายคนอาจมองว่ายังมีปลาที่ตัวใหญ่กว่านั้นในแม่น้ำ เช่นปลาSturgeon ซึ่งอพยพไปมาระหว่างแม่น้ำและทะเล เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ถูกนำมาพิจารณาว่าเป็นพันธุ์ปลาน้ำจืด


6. หมาที่ตัวสูงที่สุดในโลก(เพิ่งตายเมื่อไม่นานมานี้)Hercules อาจเป็นหมาที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก แต่หมาที่ตัวสูงที่สุดในโลกที่Guinness World Recordsได้บันทึกไว้นั้นคือสุนัขพันธุ์Great Daneที่มีชื่อว่าGibsonตัวนี้ ซึ่งมีน้ำหนัก170ปอนด์ และสูงถึง7ฟุต สูงกว่านักบาสNBAส่วนใหญ่ซะด้วยซ้ำ


7. สัตว์สายพันธุ์แมวที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกJungle Islandที่รัฐMiamiถือเป็นบ้านของLiger(การผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างสิงโตตัว ผู้กับเสือตัวเมีย)มันมีชื่อว่าHercules เป็นLigerที่ถือว่ามีรูปร่างพอดีไม่อ้วนเกินไป ที่ตัวใหญ่ที่สุด LigerถูกบันทึกในGuinness Book Of World Recordsว่าเป็นสัตว์สายพันธุ์แมวที่มีขนาดใหญ่ที่ในโลก โดยมีน้ำหนักตัวถึง900ปอนด์


8. ปลากระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เท่าที่เคยจับได้มัน ต้องใช้เวลาถึงชั่วโมงครึ่ง กับคนอืก13คน ถึงจะลากมันขึ้นมาจากน้ำได้ เมื่อเอามาชั่งน้ำหนักแล้ว มันมีน้ำหนักตัวถึง55stone(1 stone = 6.35029318 kilograms) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ เมื่อIan Welchคนที่พยายามจะดึงมันขึ้นมาคนแรก ถึงกํบเกือบตกลงไปในแม่น้ำด้วยแรงดึงของมัน นักตกปลาจากAldershot,Hampshireได้มาตกปลาที่ประเทศไทย ปลากระเบนตัวนี้ถือเป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่จับโดยใช้คัน เบ็ด ปลากระเบนตัวนี้มีลำตัวยาว7ฟุตและเมื่อรวมหางแล้วก็เท่ากับ10ฟุต


9. ฉลามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เท่าที่เคยจับได้ฉลาม วาฬยักษ์ตัวนี้ถูกจับได้ริมชายฝั่งของประเทศจีนโดยกลุ่มชาวประมงกลุ่มนึง มันมีขนาดตัวยาว10เมตร และน้ำหนักตัว8ตัน ฉลามวาฬถือเป็นปลามีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกประเมินว่าพวกมันอาจมีขนาดถึง18เมตรเลยทีเดียว โดยพวกมันมักจะอาศัยอยู่ในน้ำอุ่นแนวชายฝั่งและทะเลเปิด และจะใช้เวลาส่วนใหญ่บนผิวน้ำ

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

เริ่มแรกมีรถเมล์ในประเทศไทย

ปี พ.ศ. 2428 ประเทศไทยมีรถเทียมม้า ซึ่งเรียกกันว่า "รถเมล์" และวิ่งตามเส้นทางเรือเมล์ที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่ให้บริการอยู่ประมาณ 2 ปี จึงเลิกกิจการเนื่องจากมีการนำรถรางเข้ามาใช้แล้ว ปี พ.ศ. 2450 พระยาภักดีนรเศรษฐ หรือ นายเลิศ เศรษญบุตร เริ่มกิจการรถเมล์ขึ้นอีกครั้ง ให้บริการระหว่าง สะพานยศเส (สะพานกษัตริย์ศึก) กับตลาดประตูน้ำ ซึ่งเป็นต้นทางเรือเมล์ของนายเลิศในคลองแสนแสบด้วย เส้นทางนี้ยังไม่มีรถราง กิจการรถเมล์จึงไปได้ดี

ปี พ.ศ. 2456 นายเลิศนำรถยี่ห้อฟอร์ดเข้ามาให้บริการ และขยายเส้นทางไปถึงบางลำพู ย่านการค้าที่สำคัญของยุคนั้น ขนาดของรถใกล้เคียงกับรถม้า มี 3 ล้อ มีที่นั่งเป็นม้ายาว 2 แถว และนั่งได้ประมาณ 10 คน ขณะวิ่งจะมีเสียงโกร่งกร่าง ผู้คนจึงเรียกกันว่า "อ้ายโกร่ง" แต่บางคนเรียกว่า "รถเมล์ขาวนายเลิศ" เนื่องจากตัวรถมีสีขาว และมีเครื่องหมายกากบาทสีแดงในวงกลม

ด้วยนโยบาย "สุภาพ ซื่อสัตย์ ประหยัด ทันใจ เอากำไรน้อย บริการผู้มีรายได้น้อย" ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น กิจการก็เติบโตขึ้นด้วย จึงมีการพัฒนาเป็นรถ 4 ล้อ ที่ออกแบบขึ้นเอง มีที่นั่ง 2 แถวด้านข้าง ขยายเส้นทางออกไปอีกหลายสาย และมีผู้ประกอบการรายอื่นเพิ่มขึ้นมา รวมแล้วประมาณ 30 ราย ให้บริการไปทั่วกรุงเทพฯ ตัวรถเมล์มีทั้งสีแดง เหลือง และเขียว

ปี พ.ศ. 2497 เริ่มมีการจัดระเบียบรถเมล์ โดยรัฐบาลออก พ.ร.บ. ขนส่ง ควบคุมให้ผู้ประกอบการต้องขอใบอนุญาตก่อนทำกิจการรถเมล์

ปี พ.ศ. 2518 รัฐบาลสมัยของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช (หม่อมน้อง) ให้รวมกิจการรถเมล์ในกรุงเทพฯ เป็นบริษัทเดียวกัน คือ บริษัทมหานครขนส่ง จำกัด ซึ่งอยู่รูปแบบของรัฐวิสาหกิจ โดยรัฐและเอกชนถือหุ้นพอๆ กัน ต่อมาในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2519 รัฐบาลสมัยของ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช (หม่อมพี่) ได้ออกพระราชกฤษฎีการวมกิจการของ บริษัทมหานครขนส่ง จำกัด เข้ากับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม

กิจการรถเมล์ขาวนายเลิศ ที่ดำเนินการมาเป็นเวลา 70 ปี ในขณะนั้นได้รับสัมปทานเดินรถ 36 สาย มีจำนวนรถ 700 คัน และมีพนักงานถึง 3,500 คน จึงเลิกกิจการไปในปี พ.ศ. 2520 โดยอู่รถเมล์ขาวนายเลิศเดิม ได้กลายเป็นสถานที่ตั้งของโรงแรมปาร์คนายเลิศ ณ ถนนวิทยุ ในปัจจุบันนั่นเอง







วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

สวรรค์บนดิน... ทะเลสาบน้ำเค็ม Uyuni ที่โบลิเวีย

สวรรค์บนดิน... ทะเลสาบน้ำเค็ม Uyuni ที่โบลิเวีย


คงดีจะหากสักครั้งในชีวิตเราสามารถไปเยือนแดนสวรรค์ได้ (แบบที่ยังไม่ต้องตายน่ะนะ... หรือต่อให้ตายแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ขึ้นสวรรค์หรือเปล่าซะด้วยสิ เฮ้ออ) แต่ความจริงแล้วการไปเยือนแดนสวรรค์ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงมีเงินสักก้อนสำหรับค่าเดินทาง และกำลังใจที่เต็มเปี่ยม เท่านี้คุณก็พร้อมที่จะแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวดินแดนสวรรค์ได้แล้วล่ะ เมื่อพื้นที่แห่งหนึ่งบนผืนโลกถูกขนานนามว่าสรวงสวรรค์บนแดนดิน ที่ซึ่งผืนฟ้าโน้มตัวลงมาจรดบรรจบกับผืนดินนั่นเอง

และสวรรค์บนดินที่ว่านี้ก็คือ ทะเลสาบน้ำเค็ม Uyuni ในประเทศโบลิเวีย พื้นที่ซึ่งเวิ้งว้างกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา โดยมีน้ำทะเลตื้น ๆ ที่ขังอยู่ที่พื้น ได้สะท้อนฟ้าสีครามเบื้องบน ทั้งยังทอดตัวยาวไปจรดกับแผ่นฟ้ายังที่แห่งหนึ่งไกลลิบ ๆ สุดสายตา ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นเสมือนแดนสวรรค์ในความคิดของใครหลาย ๆ คน จริงหรือไม่ก็ลองดูภาพประกอบ แล้วจะรู้ว่าเราไม่ได้โม้จริง ๆ

Uyuni เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม หรือ ทะเลสาบแห้ง (salt flat หรือ dry lake) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ประมาณ 11,000 ตารางกิโลเมตร และอยู่เหนือระดับน้ำทะเลราว 3,600 เมตร บนเทือกเขาแอนดีส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโบลิเวีย ด้วยความสูงถึงเพียงนี้จึงราวกับว่า Uyuni เป็นดินแดนที่อยู่ท่ามกลางฟากฟ้าและก้อนเมฆ ยามปกติจะเป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่ที่มีน้ำทะเลขังอยู่เพียงตื้้น ๆ ส่วนในบางฤดูน้ำอาจระเหยออกจนกลายเป็นทะเลเกลือขาวโพลนซึ่งให้ความสวยงามไปอีกแบบ




บรรยากาศบริเวณทะเลสาบ



เห็นแล้วก็อยากจะไปชมจริงๆ

ด้วยความสวยงามน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติเช่นนี้ ทำให้ Uyuni กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของโบลิเวีย ไม่ว่าจะเป็นการไปเยี่ยมชมความสวยงามของทิวทัศน์ที่ประหนึ่งว่ากำลังเดินอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน สวรรค์บนดินที่ตัดขาดจากความวุ่นวายใด ๆ โดยสิ้นเชิง หรือจะอยู่พักแบบโฮมสเตย์กับคนพื้นถิ่นบริเวณนั้นที่ยังชีพด้วยการทำนาเกลือ แม้จะไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมพื้นบ้านอย่างการตัดขนตัวลามะ ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงและพาหนะสำคัญสำหรับคนในท้องถิ่น ในช่วงเดือนสิงหาคม หรือร่วมขบวนคาราวานของชาวบ้านที่จะเดินทางเพื่อนำเกลือไปแลกกับอาหารและของใช้ยังหมู่บ้านใกล้เคียงก็ได้

ความเค็มมากขนาดรถและคนยังสามารถอยู่บนพื้นทะเลสาบได้โดยไม่จม

ชาวบ้านเข้ามาทำนาเกลือ



วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

11 วิธีการป้องกันโจรร้าย


11 วิธีการป้องกันโจรร้าย



       สมัยนี้โจรร้ายช่างเหิมเกริมเป็นอย่างมาก พิธีกรสาวถูกยกเค้าไปถึง 4 ครั้งในรอบไม่กี่เดือน วันนี้สาระน่ารู้มี 11 วิธีการป้องกันโจรร้าย จากสถานนีตำรวจทุ่งมหาเมฆมาฝากทุกคนเพื่อป้องกันระวังตัว
1. ไม่ควรทิ้งบ้านไว้โดยไม่มีคนเฝ้าดูแล ควรให้มีคนที่ไว้วางใจอยู่เฝ้าดูแลบ้าน และควรตรวจสอบว่าปิดประตู หน้าต่างใส่กลอนเรียบร้อยแล้ว ก่อนออกจากบ้าน
2. กรณีที่ไม่อยู่บ้านควรขอความร่วมมือจากเพื่อนบ้าน ฝากให้ช่วยดูแลบ้านให้ด้วย
3. ที่ว่างเปล่าที่อยู่ติดกับที่พักอาศัยไม่ควรปล่อยให้มีต้นไม้ หรือหญ้าขึ้นสูง เพราะคนร้ายอาจใช้เป็นที่กาบังเข้าทาการลักทรัพย์ และใช้เป็นที่ซ่อนตัว หรือหลบหนี
4. ควรเลี้ยงสุนัขไว้เพื่อช่วยเตือนภัย และขังสุนัขไว้ในกรงป้องกันการถูกวางยา
5. เมื่อมีผู้โทรศัพท์มาถามว่ามีใครอยู่บ้านหรือไม่? ให้ตอบไปว่ามีอยู่กันหลายคน
6. ควรเล่ารายละเอียดกลอุบายต่างๆของคนร้ายให้กับคนรับใช้ หรือผู้ที่พักอาศัยทราบเพื่อเตือนสติอย่าให้หลงเชื่อเล่ห์เหลี่ยมของคนร้าย และมีการเตรียมพร้อมในการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
7. การติดตั้งสัญญาณแจ้งภัยควรใช้สัญญาณไซเรน เนื่องจากคนร้ายมักจะกลัวเสียงดัง และช่วยให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ยินจะได้ช่วยเหลือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตารวจทราบทันถ่วงที!
8. หยุดรับหนังสือพิมพ์กรณีไม่มีคนอยู่บ้าน เพราะหากไม่มีผู้รับจะเป็นที่สังเกตว่าไม่มีคนอยู่บ้าน
9. การจ้างคนงาน คนรับใช้ หรือพนักงาน ควรมีสาเนาบัตรประชาชน หรือบัตรประจาตัวต่างๆ ถ่ายรูป และจดรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ญาติพี่น้อง เพื่อทราบที่อยู่ความเป็นมา อาชีพดั้งเดิม ความประพฤติตลอดจนญาติพี่น้อง หากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตารวจพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อทาการตรวจสอบประวัติก็ให้ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตารวจท้องที่
10. เมื่อทราบว่ามีคนร้ายเข้าบ้าน อย่าพยายามจับคนร้ายด้วยตนเอง เพราะอาจได้รับอันตรายให้รีบแจ้งให้ตารวจทันที
11. ให้รักษาสถานที่เกิดเหตุไว้ ห้ามเคลื่อนย้ายจนกว่าเจ้าหน้าที่ตารวจจะมาถึง



ฟังเพลง ไหนว่าจะไม่หลอกกัน ost. ละครหมวดโอภาส - ชิน ชินวุฒิ feat. เต๋อ ฉันทวิชช์

ฟังเพลง : ไหนว่าจะไม่หลอกกัน ost. ละครหมวดโอภาส - ชิน ชินวุฒิ feat. เต๋อ ฉันทวิชช์

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

ทำไมไม่สบายต้องให้น้ำเกลือ

ทำไมไม่สบายต้องให้น้ำเกลือ




         หลายคนเข้าใจผิดเอาจริงๆ จังๆ ในเรื่องน้ำเกลือ คือไปนึกทึกทักว่าน้ำเกลือเป็นยาวิเศษ ถ้าต้องเข้าโรงพยาบาล หรือ แม้แต่ไปพบหมอ ต้องขอร้องให้ ให้น้ำเกลือ โดยให้เหตุผลร้อยแปดพันเก้า เช่น จะได้อ้วนท้วนแข็งแรงสุขภาพดี กินได้ นอนหลับ เป็นต้น ส่วนบางคนเข้าใจผิดไปอีกด้านหนึ่งเลย คือเชื่อว่าการให้น้ำเกลือเป็นสัญญาณว่าคนไข้อาการหนักแล้ว อย่างนี้ต้องอธิบายให้ฟังทั้งคู่เสียแล้วละ
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ 
           ตามปกติแล้วร่างกายของคนเราจะเสียน้ำออกไปจากร่างกาย โดยการขับถ่ายเป็นน้ำปัสสาวะ หรือเป็นเหงื่อ หรือเป็นไอน้ำออกมาทางลมหายใจ รวมแล้วจะมีน้ำที่ขับออกมาจากร่างกายวันหนึ่งราว ๒ ลิตรครึ่ง เราจึงต้องการน้ำเข้าไปแทนที่โดยการดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
        แต่เมื่อผู้ป่วยเสียน้ำมากกว่าปกติ เช่น ท้องเดิน อาเจียน เหงื่อออกมาก ไข้สูง เสียเลือดจากอุบัติเหตุ เป็นต้น แพยท์จึงต้องให้น้ำเข้าไปทดแทน โดยให้น้ำเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง แต่เนื่องจากน้ำกับเลือดมีความเข้มข้นต่างกัน จึงเติมเกลือลงไปในน้ำ เพื่อให้มีความเข้มข้นเท่ากับเลือด นอกจากนั้นน้ำเกลือยังช่วยเปิดเส้นเลือดไว้ เพื่อให้เลือดหมุนเวียน จนยาที่ผสมอยู่สามารถไหลเข้าไปหล่อเลี้ยงเส้นเลือดดำได้อย่างราบรื่น
        น้ำเกลือจึงไม่ใช่ทั้งยาวิเศษ และสัญญาณอันตรายอะไรเลย เป็นขั้นตอนที่มีเหตุผลของการฟื้นฟูร่างกายของเราเท่านั้นเองครับ

E. coli : อี. โคไล แบคทีเรียร้ายใกล้ตัวเรา

E. coli : อี. โคไล แบคทีเรียร้ายใกล้ตัวเรา

E.coli : อี.โคไล


ในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มนุษย์โลกได้แตกตื่นกับเชื่อโรคสายพันธ์ใหม่อีกแล้ว คราวนนี้มาในนาม Escherichia coli (“เอสเชอริเชีย โคไล” หรือ “เอเชอรีเกีย โคไล” ) หรือเรียกโดยย่อว่า E.coli : อี.โคไล เป็นแบคทีเรียในกลุ่มโคลิฟอร์ม เป็นตัวชี้การปนเปื้อนของอุจจาระในน้ำ มีอยู่ตามธรรมชาติในลำไส้ใหญ่ของสัตว์และมนุษย์ แบคทีเรียชนิดนี้ทำให้เกิดอาการท้องเสียบ่อยที่สุด ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ถ่ายอุจจาระเหลว หรือเป็นน้ำ แต่อาการมักไม่รุนแรง เพราะทั้งเด็ก และผู้ใหญ่มักมีภูมิต้านทานอยู่บ้างแล้ว เนื่องจาก ได้รับเชื้อนี้เข้าไปทีละน้อยอยู่เรื่อยๆ เชื้อนี้มักปนเปื้อนมากับอาหาร น้ำ หรือ มือของผู้ประกอบอาหาร ปกติเชื้อเหล่านี้อาจพบในอุจจาระได้อยู่แล้วแม้จะไม่มีอาการอะไร มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น พม่า ไทย ลาว กัมพูชา อินโดนิเซีย เป็นต้น แต่ทั้งนี้ แบคทีเรียE.coli : อี.โคไล นั้นมีอยู่หลายชนิด แต่เชื้อแบคทีเรียE.coli : อี.โคไลที่ระบาดอยู่ในทวีปยุโรปนั้น เป็นเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ชนิด โอ104 ผลิตสารพิษชิก้า (STEC) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดที่มีความรุนแรงมาก และเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิ 35-37 องศาเซลเซียส

เชื้อE.coli : อี.โคไล แพร่สู่คนได้อย่างไร
เชื่อแบคทีเรียE.coli : อี.โคไลจะแพร่สู่คนได้จากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อแบคทีเรีย ชนิดนี้ปนเปื้อนอยู่ ซึ่งเชื้อชนิดนี้มักจะปนเปื้อนอยู่ในอาหารที่ได้รับการปรุงไม่ถูกสุขลักษณะ



E.coli : อี.โคไล


เมื่อติดเชื้อ แบคทีเรียE.coli : อี.โคไล แล้ว จะมีอาการอย่างไร
เริ่มแรกผู้ป่วยจะมีอาการท้องร่วงเล็กน้อย จนกระทั่งรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจจมีเลือดปน มีไข้ อาเจียน ถ้า หากไม่หายภายใน 10 วัน ควรไปพบแพทย์เป็นการด่วน ไม่เช่นนั้นผู้ป่วยจะเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก และไตวาย อาจจะทำให้เสียชีวิตในที่สุด นอกจากนี้ผู้ป่วยไม่ควรรับประทานยาระงับการถ่ายอุจจาระ เพราะยาประเภทนี้จะทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

การป้องกันและรักษาเมื่อได้รับเชื้อE.coli : อี.โคไล
ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการรักษาอาการที่เกิดจากการได้รับเชื้อแบคทีเรียE.coli : อี.โคไลชนิดนี้โดยตรง ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาแก้ปวดท้องได้ในเบื้องต้น แต่ไม่ควรรับประทานยาแก้ปวดกลุ่มสเตอรอยด์ เช่นยาแอสไพริน เพราะยากลุ่มนี้จะมีผลทำลายไตของผู้รับประทาน นอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันการได้รับเชื้อ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มบรรจุกระป๋องและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สำหรับวิธีป้องกันเชื้อ แบคทีเรียอีโคไล ในเบื้องต้น คือ

1. รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ปรุงสุข งดทานอาหารแบบสุขๆ ดิบๆ
2. ควรเก็บอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไว้ในอุณหภูมิต่ำเพื่อป้องกันการแพร่เชื่อแบคทีเรียE.coli : อี.โคไล
3. สำหรับผักสด ควรล้างน้ำให้สะอาด โดยการปล่อยน้ำไหลผ่านผักประมาณ 2 นาทีเพื่อล้างแบคทีเรียE.coli : อี.โคไล
4. ในการประกอบอาหารควรปรุงให้สุกในระดับอุณหภูมิ 71 องศาเซลเซียสขึ้นไป
5. ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมืออยู่เสมอ
6. เมื่อมีอาการท้องเสียขั้นรุนแรง ควรไปพบแพทย์โดยด่วน และอย่ารับประทานยาระงับถ่ายอุจจาระ เพราะยาประเภทนี้จะทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

28 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่

28 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่


1.Amazon/South America
ป่าอะเมซอนมีพื้นที่ 7 ล้านตารางกิโลเมตร  ใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 13 เท่า โดยกินพื้นที่ 2 ใน 5 ของทวีปอเมริกาใต้ มีพื้นที่อยู่ใน บราซิล โบลิเวีย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เฟรนช์เกียนา เปรู สุรินาเม เวเนซูเอลา และกายอานา นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่เป็นที่เลื่องลือแล้ว ในป่าแห่งนี้ยังมีสัตว์มากมายหลายชนิด ที่โด่งดังคงไม่มีใครเกินปลาปิรันยาที่เป็นปลาที่ดุร้ายที่สุดในโลก และงูยักษ์อนาคอนดาที่ยาวกว่า 13 เมตร !


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
2. Angel Falls / Venezuelaหรือ "น้ำตกเองเจล" ถูกค้นพบในปี 1935 เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่กลางป่าดงดิบในประเทศเวเนซูเอลาและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตก ที่สูงที่สุดในโลก เพราะมีความสูงเกือบ 1 กิโลเมตรเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมน้ำตกนี้ได้ทางเรือและทางเครื่องบินเท่านั้น ความพิเศษของน้ำตกนี้คือ น้ำไม่สามารถตกถึงพื้นได้ เนื่องจากเป็นน้ำตกที่สูงมาก ทำให้น้ำกลายเป็นหมอกไปหมดซะก่อนจะตกถึงพื้น จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีหมอกหนาปกคลุมตลอดเวลา


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
3. Bay of Fundy / Canada
"อ่าวฟันดี้" ได้ชื่อว่าเป็นอ่าวที่มีระดับน้ำขึ้นที่สูงที่สุดในโลก คือเวลาที่น้ำขึ้น ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นถึง 16.2 เมตร รวมถึงมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าและออกจากอ่าวมากกว่า 100 พันล้านตันต่อวัน ! (เยอะว่าปริมาณน้ำจืดทั่วโลกรวมกัน) การมีกระแสน้ำขึ้นน้ำลงที่รุนแรง ทำให้เกิดลักษณะนิเวศวิทยาทางทะเลแบบเฉพาะตัวและทำให้หินชายฝั่งมีรูปแบบ หลากหลาย

เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
4. Black Forest / Germany
"ป่าดำ" แห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมันติดกับเขตสวิตเซอร์แลนด์ เป็นป่าที่มีแนวภูเขาและต้นไม้หนาทึบจนดูมืดไปหมด หากมองจากภายนอกอาจจะดูมืดๆ น่ากลัว แต่ภายในป่ามีน้ำตก หน้าผา ลำธาร และเมืองเล็กๆ และที่นี่แหละที่เป็นต้นกำเนิดของเค้ก Black Forest นั่นเอง



เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
5. Bu Tinah Island / United Arab Emirates"เกาะบูตินาห์" ตั้งอยู่ในเมืองอาบูดาบี เมืองหลวงสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นเกาะที่เป็นสมบัติของธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และไม่ถูกรบกวน จากมนุษย์ ลักษณะภูมิอากาศบริเวณนี้เป็นแบบศูนย์สูตร และมีภูมิประเทศหลากหลายทั้งแน้ำตื้น หญ้าทะเล ป่าชายเลน รวมถึงแนวปะการัง มีสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่ เช่น นกฟลามิงโก้ ปลาโลมา นกเหยี่ยวรวมถึงยังเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่ามีฝูงพะยูนมากเป็นอันดับสองของโลก


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
6. Cliffs of Moher / Ireland"ผาชันโมเออร์" ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของไอร์แลนด์ เป็นผาชันสูง 230 เมตรริมมหาสมุทรแอตแลนติกที่เกิดจากหินทรายและหินดินดานที่มีอายุเก่าแก่ โดยหินที่เก่าแก่มากที่สุดนั้นมีอายุถึง 300 ล้านปี และมีแนวผาทอดยาวกว่า 8 กิโลเมตร กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมคือการเดินเลียบขอบผาที่สูงชันแห่งนี้


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
7. Dead Sea / Isarel , Jordan , Palestine
"ทะเลเดดซี" เป็นทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง กินพื้นที่ในประเทศอิสราเอล จอร์แดน และปาเลสไตน์ เป็นทะเลน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมากและอยู่ในระดับต่ำกว่าน้ำ ทะเลมาก ด้วยความเค็มกว่าทะเลปกติถึง 6 เท่า ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในทะล รวมถึงมนุษย์สามารถลงไปนอนลอยเล่นในทะเลได้โดยไม่มีวันจม นอกจากนี้ โคลนในทะเลเดดซีได้ชื่อว่าเป็นโคลนที่มีสรรพคุณทางด้านสุขภาพและความงาม ทำให้มีคนขุดและนำมาบรรจุขายกันเป็นจำนวนมาก


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
8. El Yunque / Puerto Rico
เป็นวนอุทยานแห่งชาติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเปอเตอริโก โดยชื่อ El Yunque เป็นภาษาสเปนแปลว่าดินแดนสีขาว นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อป่าอุทยานแห่งชาติแคริบเบียนอีกด้วย ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นป่าดิบชื้นที่สวยที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง และมีสัตว์ป่าหายากมากมาย เช่น นกแก้วพันธุ์เปอร์โตริกัน


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
9. Galapagos / Ecuador
หลายคนคงคุ้นชื่อของ "หมู่เกาะกาลาปากอส" กันเป็นอย่างดี เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศเอกวาดอร์ที่เกิด จากการสะสมตัวของลาวาจากภูเขาไฟเมื่อ 7-9 ล้านปีมาแล้ว หมู่เกาะกาลาปาโกสประกอบด้วยเกาะใหญ่ 5 เกาะ เกาะขนาดกลาง 8 เกาะ และเกาะเล็กอีก 6 เกาะ พร้อมเกาะแก่งเล็ก ๆ หรือโขดหินกลางทะเลอีกประมาณ 40 แห่ง โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7,994 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในทะเล 59,500 ตารางกิโลเมตร แต่ด้วยสภาพของระบบนิเวศที่สัตว์โดนจับไปจนเกือบสูญพันธุ์ ทำให้ถูกเสนอเป็นแหล่งมรดกโลกและจัดให้อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
10. Grand Canyon / USA
"แกรนด์แคนยอน" เป็นดินแดนหินผาและหุบเหว ซึ่งหน้าผามีความสูงถึง 1,600 เมตร อยู่ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในอดีตแม่น้ำโคโลราโดได้ไหลคดเคี้ยวตามที่ราบกว้างใหญ่ที่อยู่ระดับเดียวกับ น้ำทะเล ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้นเนื่องมาจากแรงดันและความร้อนอันมหาศาลภายใต้ พื้นโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวหน้าผากว้างใหญ่คือแกรนด์แคนยอนนี่เอง


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
11. Great Barrier Reef / Australia
ชื่อของ "Great Barrier Reef (เกรตแบร์ริเออร์รีฟ)" หรือแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกคงค้างคาอยู่ในสมองของน้องๆ จากวิชาสังคมศึกษา เพราะนี่คือแนวปะการังที่ยาวกว่า 2,000 กิโลเมตรในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นโครงสร้างที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ ฟองน้ำ 10,000 ชนิด ปะการัง 350 ชนิด หอย 4,000 ชนิด ดาวทะเลและซีเออร์ชิน (Sea Urchin) ซึ่งเป็นสัตว์ประเภทคล้ายหอย 350 ชนิด และปลามากกว่า 1,500 ชนิด


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
12. Halong Bay / Vietnam
"ฮาลองเบย์" หรืออ่าวฮาลอง เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยวในประเทศเวียดนาม โดยอยู่ห่างจากเมืองฮายอนไปประมาณ 170 กิโลเมตร ในอ่าวฮาลองแห่งนี้มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือเกาะกัดบา และเกาะ Tuan Chau ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร บนเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนวนมากคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่นๆบางเกาะก็มีชายหาดที่สวยงามที่นักท่องเที่ยวนิยมไป เยี่ยมชม บางเกาะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง และบางเกาะยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์หลายชนิดอีกด้วย


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
13. Iguazu Falls / Argentina , Brazil
"น้ำตกอีกัวซู" เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของอาร์เจนตินาและบราซิล มีความสูงตั้งแต่62-82 เมตร และมีความยาวทั้งสิ้นเกือบ 3 กิโลเมตร ตำนานของน้ำตกนี้กล่าวไว้ว่า มีพระเจ้าองค์หนึ่งตั้งใจจะแต่งงานกับสาวพื้นเมืองคนหนึ่ง แต่ฝ่ายหญิงดันล่องเรือหนีไปกับชู้ ทำให้พระเจ้าทรงพิโรธและตัดแม่น้ำออกเป็นน้ำตกใหญ่มหึมาและสาปแช่งให้คนทั้ง คู่ตกลงไป


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
14. Jeita Grotto / Lebanon
ถูกค้นพบในปี 1836 เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองเบรุต เมืองหลวงประเทศเลบานอน โดยถ้ำนี้มีความยาวกว่า 9 กิโลเมตรและมีจุดเชื่อมกับแม่น้ำใต้ดิน ในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่หลากหลายทั้งรูปทรงและสีสัน รวมถึงมีหินงอกที่ใหญ่ที่สุดในโลกความสูงกว่า 8.20 เมตรอยู่ด้วย ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมถ้ำนี้ปีละประมาณสามแสนคน


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
15. Jejudo Island / South Korea
"เกาะเชจู" ที่คอซีรีส์เกาหลีคงรู้จักกันดีแห่งนี้ เป็นเกาะภูเขาไฟและเมืองตากอากาศของเกาหลีใต้ โดยอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ 130 กิโลเมตร บนเกาะนี้มีภูเขาไฟฮัลลาซานซึ่งเป็นภูเขาไฟสูง 1,950 เมตรที่ดับแล้วตั้งอยู่ เกาะเชจูได้รับจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "เกาะเชจูและถ้ำลาวา" ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 31 ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
16. Kilimanjaro / Tanzania
"ยอดเขาคิลิมันจาโร" ซึ่งมีความหมายว่าภูเขาที่ทอแสงแวววาว ตั้งอยู่ในเขตประเทศแทนซาเนียในทวีปแอฟริกา เป็นภูเขาไฟยอดเดี่ยวที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงเกือบ 6 กิโลเมตร และบริเวณยอดเขา ยังประกอบด้วยอดเขาขนาดใหญ่อีก 3 ยอดคือ ยอดคีโบ ยอดมาเวนซี และยอดชีรา นอกจากนี้ บริเวณยอดเขามีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ยาวกว่า 4,500 เมตร เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นเพียงภูเขาไม่กี่ลูกในแอฟริกาที่มีธารน้ำแข็ง


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
17. Komodo / Indonesia"หมู่เกาะโคโมโด" เป็นอุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซียที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟจนกลาย เป็นเกาะ มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำและมีสัตว์ทะเลอาศัยอยู่หลายชนิด เช่น ปลาพระอาทิตย์ กระเบนราหู ทากเปลือย เพรียงหัวหอม และที่สำคัญ ที่เกาะแห่งนี้มีสัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งสืบทอดบรรพบุรุษมาจากไดโนเสาร์นั่นก็คือ มังกรโคโมโด ใครอยากเห็นรูปลองเซิร์ชดูกันเองได้เลย (เห็นแล้วอย่าคิดว่าเป็นตัวอื่นล่ะ)

18. Maldives / Maldives
เรียกได้ว่า "หมู่เกาะมัลดีฟส์" เป็นธรรมชาติทางทะเลที่สวยและดังที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย มีเกาะต่างๆ รวม 1,190 เกาะ แต่มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ ภูมิอากาศเป็นแบบเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 27 – 30 องศาเซลเซียส ใต้ท้องทะเลมัลดีฟส์เป็นโลกของสัตว์น้ำอันน่าตื่นตาตื่นใจและไม่มีพิษภัย รวมถึงเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุดของนักดำน้ำจากทั่วโลกอีกด้วย


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
19. Masurian Lake District / Poland
"ทะเลสาปเมซูเรียน" เป็นทะเลสาบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศโปแลนด์ ประกอบด้วยทะเลสาบเล็กๆ กว่า 2,000 แห่งที่เกิดจากธารน้ำแข็งเมื่อหมื่นปีมาแล้ว มีพื้นที่รวมกว่า 52,000 ตารางกิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้ทั้งทางรถไฟ รถบัส และรถยนต์ กิจกรรมยอดนิยมได้แก่ การเล่นเรือใบ การพายเรือคะยัก การว่ายน้ำ


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
20. Matterhorn - Cervino / Italy, Switzerland
"ภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น" เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ซึ่งอยู่บริเวณพรมแดนประเทศอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูง 4,478 เมตรทำให้กลายเป็นภูเขาที่สูงที่สุดลูกหนึ่งในเทือกเขาแอลป์และมีหิมะปกคลุม ตลอดปี น้องๆ คนไหนนึกหน้าตาของภูเขาแมตเตอร์ฮอร์นไม่ออก ก็ให้นึกถึงช็อกโกแลตยี่ห้อ Toblerone ที่ห่อสีเหลืองๆ จะมีโลโก้รูปภูเขาอยู่ นั่นแหละ ภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
21. Milford Sound / New Zealandเป็นผืนน้ำส่วนเว้าของทะเลทาสมันที่อยู่ทางทางใต้ของเกาะ ใต้ของนิวซีแลนด์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาที่แคบและหน้าผาสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำ แข็ง ต่อมาธารน้ำแข็งละลายกลายเป็นผืนน้ำแห่งนี้ กิจกรรมยอดฮิตคือการล่องเรือชมผืนน้ำและหน้าผาโดยรอบ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์สุดน่ารักอย่างแมวน้ำอีกด้วย

เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
22. Mud Volcanoes / Azerbaijan
"ภูเขาไฟโคลน" แห่งนี้ เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเลแคสเปียนในประเทศอาเซอร์ไบจาน โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพราะมีคำเตือนจึงทำให้อพยพคนได้ทัน แต่สิ่งที่ตามมาคือ ได้เกิดภูเขาไฟโคลนหรือโคลนเหลวที่เกิดขณะมีการปะทุของภูเขาไฟ โดยค่อยๆ โป่งนูนขึ้นมาและขยายใหญ่ขึ้นจากแรงดันด้านล่าง มีกลิ่นเหม็น รวมถึงมีการระเหยของก๊าซหลายชนิดที่ติดไฟง่าย ดังนั้นจึงถือเป็นสถานที่อันตราย แต่ด้วยความสวยงามและน่าอัศจรรย์ จึงถูกจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติกับเค้าด้วย


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
23. PP Underground River / Philippines
หรือที่มีชื่อเต็มว่า "The Puerto Princesa Subterranean River National Park" หรืออุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โต-ปรินเซซา ตั้งอยู่ที่เกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ที่แห่งนี้เป็นแม่น้ำใต้ดินที่มีความยาวที่สุดในโลกที่ไหลผ่านถ้ำลงสู่ทะเล จีนใต้ นอกจากนี้ในบริเวณนั้นยังมีหน้าผาที่เกิดจากหินปูนยาวกว่า 8 กิโลเมตร กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคือการล่องเรือชมความงามของถ้ำที่เต็มไปด้วย หินงอกหินย้อย

เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
24. Sundarbans / India , Bangladesh
"ซันเดอร์บันส์" เป็นป่าโกงกางขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่กินพื้นที่ในประเทศอินเดียและบังกลาเทศ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำคงคา ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางกิโลเมตร ชื่อป่านี้เป็นภาษาเบงกาลีแปลว่าป่าที่สวยงาม และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก เช่น จระเข้ งู กวาง นก โดยเฉพาะเสือเบงกอลและจระเข้นักล่าที่ขึ้นชื่อ


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
25. Table Mountain / South Africa
"อุทยานแห่งชาติ Table Mountain" ตั้งอยู่ในเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นภูเขาที่เกิดจากการยกตัวขึ้นของเปลือกโลก ต่อมาได้ผุพังและถูกกัดกร่อนโดยลมและฝน จนทำให้กลายเป็นภูเขายอดตัดรูปร่างคล้ายโต๊ะ จึงได้ชื่อว่า Table Mountain การเข้าชมสามารถทำได้ 2 ทางคือการปีนเขาขึ้นไปและการนั่งกระเช้า ที่สำคัญ บนภูเขายังมีพันธุ์ดอกไม้หายากกว่า 1,400 ชนิดอีกด้วย


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
26. Uluru / Australia
"หินอูลูรู" เป็นชื่อภูเขาหินสีแดงสูง 348 เมตรที่ตั้งตระหง่านใกล้เมือง Alice Spring ประเทศออสเตรเลียท่ามกลางความแห้งแล้งของทะเลทราย ถือเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีความแปลกเพราะตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้สถานที่นี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจิน ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณ 400,000 คน


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
27. Vesuvius / Italy
แทบไม่มีใครในโลกไม่เคยได้ยินชื่อ "ภูเขาไฟวิสุเวียส" ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองนาโปลี ประเทศอิตาลี เพราะเป็นภูเขาไฟอายุ 25,000 ปีที่ยังไม่ดับแห่งเดียวในทวีปยุโรปแผ่นดินใหญ่ สูงถึง1,281 เมตรปากปล่องมีเส้นรอบวง 1,400 เมตร และลึก 216 เมตร การระเบิดครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 79 เถ้าถ่านและลาวาได้ไหลลงมาทับถมเมืองปอมเปอีทั้งเมืองที่กำลังอยู่ในยุค รุ่งเรืองให้จมหายวับภายในพริบตา


เด็กดีดอทคอม :: ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่
28. Yushan / Taiwan
"ยอดเขายูชาน" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติยูชานของไต้หวัน ส่วนมากมักเป็นที่รู้จักในชื่อของภูเขามังกรหยก มีความสูง 3,952 เมตรจากระดับน้ำทะเลและถือเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในไต้หวัน ขึ้นชื่อในเรื่องของระบบนิเวศที่ยังคงความสมบูรณ์เอาไว้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ยอดเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาเหมือนกับแสงของแก้วที่ส่องสว่าง